ปัจจุบันมีคุณพ่อคุณแม่หลายคนที่เลี้ยงลูกด้วยมือถือ ไอแพดบ้าง เพราะด้วยภารงานต่าง ๆ ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน บางครั้งจึงให้ลูกใช้เวลาอยู่กับมือถือ ซึ่งเด็กหลายคนก็เล่นโซเชียลเป็นแล้ว ทำให้มีโอกาสเสพข่าวสารต่าง ๆ มากมากได้อย่างอิสระ
และจากสถานการณ์เหตุการณ์ข่าวในปัจจุบัน มีทั้งเรื่องดราม่า ฆาตรกรรม อนาจาร การทำร้ายร่างกายกัน หลากหลายรูปแบบ จึงทำให้เด็กได้รับรู้ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เรื่องโหดร้าย ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ละเลยไม่สนใจ อาจทำให้ลูกมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปเลยก็ได้
ปัญหาที่จะตามมาหากปล่อยให้ลูกเข้าใจไปเอง
หากพ่อแม่เห็นว่าลูกยังเด็ก ยังคงไม่ทันคิดอะไรและอาจจะไม่เข้าใจกับข่าวมากนัก นั่นเป็นเรื่องที่ผิด เพราะเด็กหรือวัยรุ่น เป็นวัยที่เรียนรู้และสามารถนำสิ่งที่พบเจอมาเชื่อและยึดติดกับสิ่งที่เห็นมากเกินไป ทำให้ส่งผลกระทบต่อการอยู่รวมในสังคมโรงเรียน ความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง และกลายเป็นคนทัศนคติลบได้
แต่ไม่ใช่ว่าการเสพสื่อจะเป็นเรื่องต้องห้ามซะทีเดียว หากลองฉวยโอกาสนี้นำมาสอน ปรับวิธีคิดของลูกให้เห็นผิดถูก เพราะอย่างน้อยก็มีตัวอย่างจากข่าวที่สามารถอธิบายให้เป็นรูปภาพที่ชัดเจนได้ ซึ่งวิธีการก็จะมีทั้งอย่าปล่อยให้ลูกเล่นมือถือคนเดียวเป็นเวลานาน ถ้ามีเวลาลองเสพสื่อ ข่าวกับลูก แล้วพูดคุยอธิบายไปในตัวด้วยว่าการกระทำแบบนี้ถูกต้องหรือไม่ จะส่งผลอย่างไร เพื่อให้ลูกได้แยกแยะได้ว่าเป็นเรื่องดีหรือไม่ดี และสอนให้ลูกรู้จักอารมณ์โกรธ เศร้า ดีใจ รวมไปถึงการแสดงออกถึงอารมณ์ต่าง ๆ ฝึกให้ควบคุมอารมณ์และอดทนต่อสถานการณ์ที่ยากลำบาก
นอกจากการเฝ้าดูและคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกอยู่เป็นประจำแล้ว พ่อแม่ลองชักชวนลูกทำกิจกรรม หรือมานั่งดูข่าว ดูรายการทีวีต่าง ๆ แล้วลองมานั่งวิเคราะห์อธิบายให้ลูกฟังไปด้วย จะช่วยทำให้ลูกมีความเข้าใจต่อเรื่องนั้น ๆ มากขึ้นและสามารถแยกแยะแต่ละเรื่องอย่างสมเหตุสมผล ทำให้สามารถรู้จักป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยและเข้าใจความรู้สึกคนอื่นมากขึ้น
